วันอังคารที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2556

แผนการสอนที่2

คำอธิบาย: คำอธิบาย: 118263578 copy
 


แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2


 


รายวิชาพื้นฐาน ภาษาอังกฤษ                                                            ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5     Unit 2  Sport and Hobbies                                                                                                                       เวลา 5 ชั่วโมง

   1. มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด
   
มาตรฐาน ต 1.1 ม.5/1  ปฏิบัติตามคำแนะนำในคู่มือการใช้งานต่างๆ คำชี้แจง คำอธิบาย และคำบรรยายที่ฟังและอ่าน
มาตรฐาน ต 1.1 ม.5/2  อ่านออกเสียงข้อความ ข่าว ประกาศ โฆษณา บทร้อยกรอง และบทละครสั้น (skit) ถูกต้องตามหลักการอ่าน
มาตรฐาน ต 1.1 ม.5/3  อธิบายและเขียนประโยคและข้อความให้สัมพันธ์กับสื่อที่ไม่ใช่ความเรียงรูปแบบต่างๆ ที่อ่าน รวมทั้งระบุและเขียนสื่อที่ไม่ใช่ความเรียงรูปแบบต่างๆ ให้สัมพันธ์กับประโยค และข้อความที่ฟังหรืออ่าน
มาตรฐาน ต 1.1 ม.5/4  จับใจความสำคัญ  วิเคราะห์ความ สรุปความ ตีความ และแสดงความคิดเห็นจากการฟังและอ่านเรื่องที่เป็นสารคดี และบันเทิงคดี พร้อมทั้งให้เหตุผลและยกตัวอย่างประกอบ
มาตรฐาน ต 1.2 ม.5/1  สนทนาและเขียนโต้ตอบข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง เรื่องต่างๆ ใกล้ตัว ประสบการณ์  สถานการณ์ ข่าว/เหตุการณ์ ประเด็นที่อยู่ในความสนใจของสังคม และสื่อสารอย่างต่อเนื่องและเหมาะสม
มาตรฐาน ต 1.2 ม.5/2  เลือกและใช้คำขอร้อง ให้คำแนะนำ คำชี้แจง คำอธิบายอย่างคล่องแคล่ว
มาตรฐาน ต 1.2 ม.5/4  พูดและเขียนเพื่อขอและให้ข้อมูล บรรยาย อธิบาย เปรียบเทียบ และแสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับเรื่อง/ประเด็น/ข่าว/เหตุการณ์ที่ฟังและอ่านอย่างเหมาะสม
มาตรฐาน ต 2.1 ม.5/1  เลือกใช้ภาษา น้ำเสียง และกิริยาท่าทางเหมาะกับระดับของบุคคล โอกาส และสถานที่  ตามมารยาทสังคมและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา  
มาตรฐาน ต 2.1 ม.5/2  อธิบาย/อภิปรายวิถีชีวิต ความคิด ความเชื่อ และที่มาของขนบธรรมเนียมและประเพณี ของเจ้าของภาษา
มาตรฐาน ต 2.2 ม.5/1  อธิบาย/เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างโครงสร้างประโยค ข้อความ สำนวน คำพังเพย สุภาษิต และบทกลอนของภาษาต่างประเทศและภาษาไทย
มาตรฐาน ต 4.1 ม.5/1  ใช้ภาษาสื่อสารในสถานการณ์จริง/สถานการณ์จำลอง ที่เกิดขึ้นในห้องเรียน สถานศึกษา ชุมชน และสังคม

   2. เป้าหมายการเรียนรู้/ความเข้าใจที่คงทน (Learning Outcomes / Enduring Understanding)

       2.1   พูดเปรียบเทียบภาพถ่ายกีฬา/งานอดิเรกของบุคคลต่างๆ และสนทนาแลกเปลี่ยนข้อมูลได้
       2.2   เขียนจดหมายเพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติมได้

   3.      สิ่งที่ต้องรู้และปฏิบัติได้ (Important to know and to do)

3.1   ออกเสียง สะกด บอกความหมายของคำศัพท์/วลีเกี่ยวกับกีฬาและงานอดิเรก และนำไปใช้ได้ถูกต้อง                             
3.2   จับคู่ชนิดของกีฬาหรืองานอดิเรกกับอุปกรณ์ที่ใช้ได้             
3.3   อ่านบทความเกี่ยวกับกีฬา จับใจความสำคัญและรายละเอียด แล้วตอบคำถามได้ถูกต้อง
3.4   เลือกความหมายของคำศัพท์ที่ถูกต้องตามบริบท (context) ในบทความได้
3.5   จับคู่กริยาวลี (phrasal verb) กับความหมาย และนำกริยาวลีดังกล่าวไปเติมลงในประโยคได้ถูกต้อง
3.6   เลือกคำศัพท์เกี่ยวกับกีฬาและงานอดิเรกที่เหมาะสมกับประโยคได้
3.7   ศึกษาตัวอย่างและการใช้รูปกริยา (verb form) ใน Simple Past, Past Perfect และ Past Perfect Continuous แล้วตอบคำถาม สรุปหลักการใช้ และเติมลงในประโยคได้ถูกต้อง
3.8   ฟังประกาศในกีฬาโอลิมปิกและเขียนเติมข้อมูลจากการฟังได้
3.9   อ่านโฆษณาเกี่ยวกับกีฬาและร่างจดหมายแบบเป็นทางการ (formal letter) เพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติมโดยใช้โครงสร้างประโยคคำถามแบบ indirect question ได้
3.10 เปลี่ยนประโยค direct question เป็น indirect question ได้  
        
   4.                                                                                    สิ่งที่ควรค่าแก่การเรียนรู้ (Worth being familiar with)

       เรื่องเกี่ยวกับกีฬาและงานอดิเรก

   5.      คำถามสำคัญ (Essential Questions)

5.1   What is a ”Zorb”?
5.2   Have you ever tried to play with it? If yes, what did you do and how did you feel? If no, do you want to try? Why?/ Why not?
5.3   Supposing you want to try an extreme sport you saw in an ad but you want to ask about equipment, transportation from town, the expense, the schedule, the instructor and the life guard. How will you organize your formal letter to the company?
a.  How will you greet them?
b.  Where did you see the advertisement? Why do you want more information?
c.   How will you ask about the course or the lesson?
d.  What do you want to know more about?
f.   How will you express your gratitude for their reply?
g.  How will you say that you are looking forward to their reply?



   6.                                                        สิ่งที่นักเรียนต้องได้รับการพัฒนา
                            
         6.1    ทักษะกระบวนการ
                   - กระบวนการกลุ่ม            
              - กระบวนการคิด          
              - กระบวนการเรียนรู้ด้วยตนเอง
         6.2    คุณลักษณะอันพึงประสงค์
              - มีวินัย
              - ใฝ่เรียนรู้
              - มุ่งมั่นในการทำงาน                 
       6.3   สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน
                   - ความสามารถในการสื่อสาร (Communication Capacity)
              - ความสามารถในการคิด (Thinking Capacity)      
              - ความสามารถในการแก้ปัญหา (Problem-Solving Capacity)
              - ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต (Capacity for Applying Life Skills)

   7. ผลงานที่ได้จากการเรียนรู้และปฏิบัติ

7.1   การพูดเปรียบเทียบภาพถ่ายกีฬา/งานอดิเรกของบุคคลต่างๆ และสนทนาแลกเปลี่ยนข้อมูล
7.2   การเขียนจดหมายร้องทุกข์อย่างเป็นทางการ  

   8.      การวัดและประเมินผล (Evaluation)
             

สิ่งที่ต้องการวัดและประเมิน

 

วิธีการวัด

และประเมิน


เครื่องมือวัด
และประเมิน

เกณฑ์การวัด
และประเมิน

ความรู้และทักษะด้านคำศัพท์

สิ่งที่ต้องรู้และปฏิบัติได้

3.1  ออกเสียง สะกด บอกความหมายของ
      คำศัพท์/วลีเกี่ยวกับกีฬาและงานอดิเรก
      และนำไปใช้ได้ถูกต้อง


ตรวจสอบอย่าง
ไม่เป็นทางการ



กิจกรรม A, D, E, F, G

 


ปฏิบัติได้ในระดับดี-ดีมาก
3.2  จับคู่ชนิดของกีฬาหรืองานอดิเรกกับอุปกรณ์
      ที่ใช้ได้
ตรวจสอบอย่าง

ไม่เป็นทางการ

กิจกรรม A

ปฏิบัติได้ในระดับดี-ดีมาก
3.4  เลือกความหมายของคำศัพท์ที่ถูกต้องตาม
      บริบท (context) ในบทความได้
ตรวจสอบอย่าง
ไม่เป็นทางการ

กิจกรรม D

ปฏิบัติได้ในระดับดี-ดีมาก
3.5  วงกลมเลือกคำศัพท์ที่ทำให้ประโยคถูกต้อง
      สมบูรณ์

ทดสอบย่อย

กิจกรรม F

ตอบถูก 7 ข้อ จาก 8 ข้อ


สิ่งที่ต้องการวัดและประเมิน

 

วิธีการวัด

และประเมิน


เครื่องมือวัด
และประเมิน

เกณฑ์การวัด
และประเมิน
สิ่งที่ต้องรู้และปฏิบัติได้
3.5  จับคู่กริยาวลี (phrasal verb) กับความหมาย
      และนำกริยาวลีดังกล่าวไปเติมลงในประโยค
      ได้ถูกต้อง

- สังเกต/พูดคุย

- ทดสอบย่อย

- กิจกรรม E
  (จับคู่)
- กิจกรรม E (เติม
  ลงในประโยค)

- ปฏิบัติได้ใน
  ระดับดี-ดีมาก
- ตอบถูกทุกข้อ

ความสามารถและทักษะการอ่าน

สิ่งที่ต้องรู้และปฏิบัติได้
3.3  อ่านบทความเกี่ยวกับกีฬา จับใจความสำคัญ
      และรายละเอียด แล้วตอบคำถามได้ถูกต้อง



ตรวจสอบอย่าง
ไม่เป็นทางการ


กิจกรรม B, C

 


ปฏิบัติได้ในระดับดี-ดีมาก
ความรู้และทักษะทางไวยากรณ์
สิ่งที่ต้องรู้และปฏิบัติได้
3.7  ศึกษาตัวอย่างและการใช้รูปกริยา (verb
      form) ใน Simple Past, Past Perfect และ
      Past Perfect Continuous แล้วตอบคำถาม
      สรุปหลักการใช้ และเติมลงในประโยคได้
      ถูกต้อง


ทดสอบย่อย


กิจกรรม G


 


ตอบถูก 5 ข้อ  จาก 6 ข้อ

ความสามารถและทักษะการฟัง
สิ่งที่ต้องรู้และปฏิบัติได้
3.8  ฟังประกาศในกีฬาโอลิมปิกและเขียนเติม
      ข้อมูลจากการฟังได้


ทดสอบย่อย


กิจกรรม H


ตอบถูกทุกข้อ
ความสามารถและทักษะการเขียน
สิ่งที่ต้องรู้และปฏิบัติได้
3.9  อ่านโฆษณาเกี่ยวกับกีฬาและร่างจดหมาย
      แบบเป็นทางการ (formal letter) เพื่อขอ
      ข้อมูลเพิ่มเติมโดยใช้โครงสร้างประโยค
      คำถามแบบ indirect question ได้
3.10 เปลี่ยนประโยค direct question เป็น
       indirect question ได้


สังเกต/พูดคุย


- กิจกรรม J
- กิจกรรม K

 


ปฏิบัติได้ในระดับดี-ดีมาก
(ทั้ง 2 กิจกรรม)



สิ่งที่ต้องการวัดและประเมิน

 

วิธีการวัด

และประเมิน


เครื่องมือวัด
และประเมิน

เกณฑ์การวัด
และประเมิน
สิ่งที่นักเรียนได้รับการพัฒนา
- เจตคติต่อการเรียนรู้
- ทักษะกระบวนการ
- คุณลักษณะอันพึงประสงค์
- สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน
สังเกต สอบถาม และบันทึกขณะนักเรียนปฏิบัติกิจกรรมการเรียนรู้ การนำเสนอทั้งการพูดและการเขียน
แบบบันทึกผลการจัดการเรียนรู้

แสดงออกถึงการพัฒนาในระดับดี-ดีมาก

เป้าหมายการเรียนรู้



 

ความสามารถและทักษะการพูด

- พูดเปรียบเทียบภาพถ่ายกีฬา/งานอดิเรกของ
  บุคคลต่างๆ และสนทนาแลกเปลี่ยนข้อมูลได้




ลงมือปฏิบัติ/โครงงาน

- กิจกรรม I

- แบบประเมิน
  การพูด

- ปฏิบัติได้ใน
  ระดับดี-ดีมาก
- คะแนนเมื่อ
  เทียบกับเกณฑ์

ความสามารถและทักษะการเขียน

- เขียนจดหมายเพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติมได้
 


ลงมือปฏิบัติ/โครงงาน

- กิจกรรม L

- แบบประเมิน
  การเขียน

 

- ปฏิบัติได้ใน
  ระดับดี-ดีมาก
- คะแนนเมื่อ
  เทียบกับเกณฑ์

   9. สาระการเรียนรู้

         9.1    คำศัพท์ (Vocabulary)
- bounce (v)              move upward from a surface or away from something immediately after hitting it (กระเด้ง, กระดอน)
- club (n)                  a long thin metal stick used for hitting the ball in golf
- confidence (n)         the feeling that you are sure about your abilities, qualities, or ideas  (ความมั่นใจ)
- discourage (v)         cause someone to lose his/her enthusiasm about his actions (บั่นทอนกำลังใจ, ทำให้เสียกำลังใจ)
- effect (n)                 the change that one thing causes in another thing (ผลที่ตามมา ซึ่งอาจเป็นด้านบวกหรือลบต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่ง)
- encouragingly (adv) in an encouraging manner (ในลักษณะให้กำลังใจ, เป็นการให้กำลังใจ)
- enthusiastic (adj)     liking or enjoying something by the way that you behave and talk  (กระตือรือร้น, สนอกสนใจอย่างจริงจัง)
- experiment (n)         a scientific test done in order to discover what happens to something in particular conditions (การทดลอง)
- extreme sport (n)     a sport or activity that involves high speed or high risk, such as bungee jumping or snowboarding (กีฬาเอ็กซ์ตรีม, กีฬาโลดโผน หมายถึงกีฬาที่มักใช้ความเร็ว ท้าทายความกล้าและเสี่ยงอันตราย เช่น การกระโดดบันจี้จัมพ์ สเก็ตบอร์ด สโนว์บอร์ด หรือจักรยานผาดโผน เป็นต้น)
- green (n)                a smooth, flat area of grass around a hole on a golf course (พื้นที่รอบๆ หลุมกอล์ฟ ซึ่งหญ้าจะตัดสั้นกว่าบริเวณอื่นๆ ในกีฬากอล์ฟเรียกทับศัพท์ว่า กรีน”)
- harness (n)             a set of straps which fit under a person's arms and fasten around their body in order to keep a piece of equipment in place or to prevent the person moving from a place (สายคาดนิรภัย)
- loan (n)                  an amount of money that a person, business etc. borrow, often from a bank (เงินกู้)
- occupant (n)           someone who uses or lives in a room, house, building, area of land etc for a period of time (ผู้อยู่อาศัย, ผู้ครอบครอง)
- prototype (n)           the first form of something such as a car, machine etc., from which all later forms are developed (ชิ้นงานต้นแบบ)
- ramp (n)                 a slope that connect two levels of a road, building, etc. when one is higher than the other (ทางลาด)
- research scientist (n phr) a scientist whose job is to do research in science (นักวิจัยด้านวิทยาศาสตร์)
- run after (v)             to chase someone or something (ไล่ตาม)
- separately (adv)      at different times or places, rather than together (โดยแยกกัน)
- sphere (n)              an object that is shaped like a ball (วัตถุทรงกลม)
- take the plunge (idiom) to decide to do something important, difficult, or risky especially after thinking about it for a long time (ตัดสินใจลงมือทำสิ่งที่ยากหรือเสี่ยง)
- tear (v)                   become damaged with a hole appearing in it (ฉีกขาด)
- thrill (n)                  a sudden feeling of great excitement, pleasure, or fear (ความตื่นเต้น หวาดเสียว และเร้าใจ)
- tumble dryer (n)       a machine that uses hot air to dry clothes after they have been washed  (เครื่องปั่นผ้าให้แห้งด้วยลมร้อน)
- tunnel (n)               a passage built underground (อุโมงค์)
- umpire (n)              a person whose job is to watch a game and make sure that the players obey the rules in sports such as tennis, baseball, and cricket  (กรรมการผู้ตัดสินหรือชี้ขาดในกีฬาเทนนิส เบสบอล และคริกเก็ต)

         9.2    การออกเสียง (Pronunciation)
- การออกเสียง th ทั้งแบบเสียงก้อง /ð/ และเสียงไม่ก้อง /θ/ ในคำต่อไปนี้
  thrill /θrɪl/                                        through /θruː/  
  thought /θɔːt/                                  whether /ˈweðər/

         9.3    โครงสร้างทางไวยากรณ์ (Grammar)
  -         Simple Past, Past Perfect และ Past Perfect Continuous

         9.4    หน้าที่ทางภาษา (Functions of the Language)
-  Giving personal opinion and exchanging factual information using photo as a starting point
- Writing a letter of inquiry using prompts

         9.5    วัฒนธรรม (Culture)
ซอร์บบิง (Zorbing) เป็นหนึ่งในกีฬาโลดโผนท้าทาย หรือที่เรียกว่า กีฬาเอ็กซ์ตรีม เหมาะสำหรับผู้คนที่ชอบความตื่นเต้น กีฬาประเภทนี้ทดสอบทั้งความแกร่งของร่างกายและจิตใจของผู้เล่น ครูอาจถามนักเรียนในชั้นว่ามีใครเคยได้ดูหรือลองเล่นกีฬาโลดโผนท้าทายเหล่านี้บ้าง และแนะนำให้นักเรียนค้นคว้าในอินเทอร์เน็ตเพื่อจะได้เห็นภาพประกอบและอ่านเรื่องราวเกี่ยวกับกีฬาเหล่านี้ หรือหากสนใจกีฬาซอร์บบิง สามารถคลิกเข้าไปที่ www.zorb.com ซึ่งวิธีนี้เป็นการกระตุ้นให้นักเรียนได้ฝึกอ่านภาษาอังกฤษได้เป็นอย่างดี 

         9.6    กลวิธีการเรียนรู้ (Learning Strategies)
                 - Reading for details
             - Listening for specific details     

      9.7    ความสัมพันธ์กับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่น
             - กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา
             - กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม

  10. สื่อและแหล่งเรียนรู้
                       
       10.1 หนังสือเรียน BRIDGE Student Book 5 Unit 2
       10.2 หนังสือแบบฝึกหัด BRIDGE Workbook 5 Unit 2
       10.3 ซีดีบันทึกเสียง Audio CD BRIDGE 5 Unit 2
       10.4 พจนานุกรมอังกฤษ อังกฤษ
       10.5 เว็บไซต์ www.zorb.com 

  11. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้
             
       11.1  ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน (Warm up)
- เพื่อสำรวจว่า งานอดิเรกหรือกีฬาใดที่นักเรียนชื่นชอบมากที่สุด ให้ครูซักถามนักเรียนแต่ละคนดังนี้
T:     What do you like to do in your free time? Why?
S1:   ……………………………..
T:     Which sports do you like the most? Why?
S2:   ……………………………..
T:     Can you play it?
S2:   ……………………………..
                   Learning Link
                             ครูแจ้งจุดประสงค์การเรียนรู้โดยให้นักเรียนทุกคนอ่านกรอบ Learning Link หน้า 11 เพื่อ
              ให้ทราบว่านักเรียนต้องรู้และปฏิบัติอะไรได้บ้างใน Unit 2 ดังนี้
              - คำและวลีที่ใช้พูดคุยเกี่ยวกับกีฬาและงานอดิเรกต่างๆ
              - พูดเปรียบเทียบภาพกีฬาและงานอดิเรกต่างๆ และพูดแลกเปลี่ยนข้อมูลที่เป็นจริง
              - เขียนจดหมายเพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติม
              - ใช้ Simple Past, Past Perfect และ Past Perfect Continuous ได้
A   Match the sports and hobbies in the photos with the equipment or items needed to practice them.
- ให้นักเรียนจับกลุ่ม กลุ่มละ 4 - 5 คน ดูภาพข้อ A - F ในกิจกรรมข้อ A แล้วช่วยกันคิดและเขียนคำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับภาพทั้ง 6 ภาพ หลังจากที่นักเรียนเขียนคำศัพท์เสร็จแล้ว ให้ตัวแทนกลุ่มแต่ละกลุ่มออกมาเขียนคำศัพท์บนกระดาน ครูอธิบายความหมายของคำศัพท์บางคำที่นักเรียนไม่ทราบ หรือให้นักเรียนเปิดพจนานุกรมค้นหาความหมายของคำศัพท์ด้วยตนเอง จากนั้นให้นักเรียนทุกคนช่วยกันบอกความหมายของคำศัพท์ข้อ 1 - 6 แล้วจับคู่คำศัพท์กับภาพให้สัมพันธ์กัน เมื่อนักเรียนทำกิจกรรมเสร็จแล้ว ครูตรวจคำตอบพร้อมกับนักเรียนทั้งชั้น (ดูเฉลยคำตอบท้ายเล่ม)

         11.2  ขั้นนำเสนอความรู้ (Presentation)
              Reading Link
B   Read the article and explain what Zorbing is.
- ก่อนเริ่มทำกิจกรรมข้อ B ครูอธิบายความหมายของคำศัพท์ยากที่ปรากฏในบทความให้กับนักเรียน โดยยกตัวอย่างประโยคดังนี้
-   enthusiastic - You don’t sound very enthusiastic about the idea.
-   confidence - She has confidence in her students’ abilities.
-   discourage - His parents tried to discourage him from being an actor.
แล้วบอกความหมายเป็นภาษาไทย หรืออาจให้นักเรียนลองเดาความหมายด้วยตนเอง
- ให้นักเรียนจับคู่อ่านบทความในกิจกรรมข้อ B แล้วตอบคำถามของครูดังนี้
T:  Which country originates “The Zorb”?
What is a “ Zorb”?
How do we play “The Zorb”?
- ให้นักเรียนแต่ละคู่อ่านบทความในกิจกรรมข้อ B อีกครั้ง แล้วช่วยกันอธิบายความหมายของ Zorbing ครู   สุ่มเรียกนักเรียนบางคู่บอกคำตอบ แล้วจึงเฉลยคำตอบที่ถูกต้องพร้อมกับนักเรียนทั้งชั้น (ดูเฉลยคำตอบท้ายเล่ม)
C   Read the article carefully and choose the best answer, a-d, for each of the questions 1-5.
- ก่อนเริ่มทำกิจกรรมข้อ C ครูแนะนำให้นักเรียนทั้งชั้นอ่านคำถามข้อ 1 - 5 ให้เข้าใจ และพิจารณาว่าคำถามแต่ละข้อสอดคล้องกับเนื้อความบรรทัดใดในบทความกิจกรรมข้อ B คำถามแบบเลือกตอบลักษณะนี้นักเรียนจำเป็นต้องอ่านเนื้อความแต่ละบรรทัดโดยละเอียด
- ให้นักเรียนทุกคนอ่านบทความในกิจกรรมข้อ B อีกครั้ง แล้วเลือกคำตอบที่ถูกต้องพร้อมทั้งอธิบายเหตุผลที่เลือกคำตอบนั้น ตัวอย่างเช่น ข้อ 1 คำตอบที่ถูกต้องคือ ข้อ c เหตุผลที่เลือกคำตอบข้อนี้คือ ความหมายของประโยค “… which didn’t really give us much confidence.” ในย่อหน้าที่ 3 เป็นต้น
- เมื่อนักเรียนทำกิจกรรมเสร็จแล้ว ครูสุ่มเรียกนักเรียนบางคนบอกคำตอบและเหตุผลที่เลือกคำตอบนั้น แล้วจึงเฉลยคำตอบที่ถูกต้องพร้อมกับนักเรียนทั้งชั้น (ดูเฉลยคำตอบท้ายเล่ม)
                   Vocabulary Link
D   Read the reports again and match these headings with each part of the reports.
- เพื่อเป็นการทบทวนคำศัพท์ก่อนทำกิจกรรมข้อ D ครูชูบัตรคำศัพท์พร้อมตัวอย่างประโยคที่เตรียมไว้ให้นักเรียนทั้งชั้นดู แล้วให้นักเรียนช่วยกันบอกความหมายของคำศัพท์และประโยค
ตัวอย่างบัตรคำศัพท์
กล่องข้อความ: effect
- Modern farming methods can have an effect on the environment.

กล่องข้อความ: bounce (bouncing)
- The bus bounced down the hill.

กล่องข้อความ: harness
- A roller coaster has a safety harness.

กล่องข้อความ: tear
- I tear a hole in my jeans.

กล่องข้อความ: separately
- The teacher asks students to make a project separately as a group.

- ให้นักเรียนทุกคนย้อนกลับไปอ่านบทความในกิจกรรมข้อ B แล้วเลือกวงกลมความหมายให้สัมพันธ์กับคำศัพท์ที่กำหนดให้ในกิจกรรมข้อ D เมื่อนักเรียนทำกิจกรรมเสร็จแล้ว ครูขอนักเรียนอาสาสมัครบอกคำตอบของตนเอง แล้วจึงเฉลยคำตอบที่ถูกต้องพร้อมกับนักเรียนทั้งชั้น (ดูเฉลยคำตอบท้ายเล่ม)
- ให้นักเรียนแต่ละคนแต่งประโยคโดยใช้คำศัพท์ในกิจกรรมข้อ D คำศัพท์ละ 1 ประโยค แล้วออกมาเขียนประโยคที่ตนเองแต่งบนกระดาน ครูและนักเรียนทั้งชั้นช่วยกันตรวจสอบและแก้ไขให้ถูกต้อง
E    Match the phrasal verbs with their meanings.
- ครูเขียนตัวอย่างประโยคที่ใช้กริยาวลีในกิจกรรมข้อ E บนกระดาน ดังนี้
1. What’s going on here?
2. She was knocked down by a bus.
3. The dog ran after the cat.
4. He ran away from home at the age of thirteen.
  แล้วบอกให้นักเรียนทุกคนเปิดพจนานุกรมค้นหาความหมายภาษาไทยของกริยาวลีทั้ง 4 คำ จากนั้นครูเขียนความหมายภาษาอังกฤษข้อ a - d ในกิจกรรมข้อ E บนกระดาน แล้วถามนักเรียนว่า นักเรียนจะเลือกคำศัพท์ใดในข้อ a - d มาแทนที่กริยาวลีในประโยคข้อ 1 - 4
T:  Which words form a - d can substitute “going on”?
S:  Happen.
T:  Well done. Which words can substitute “knocked down”?
S : Cause to fall.
T:  Very good. Which words can substitute “ran after”?
S:  Chase.
T:  Excellent. Which words can substitute “ran away”?
S:  Escape.
T:  You did a good job.
- ให้นักเรียนแต่ละคนจับคู่กริยาวลีกับความหมายในกิจกรรมข้อ E ให้สัมพันธ์กัน แล้วเขียนกริยาวลีลงในประโยคให้ได้ใจความสมบูรณ์และถูกต้องตามหลักไวยากรณ์ เมื่อนักเรียนทำกิจกรรมเสร็จแล้ว ครูตรวจคำตอบพร้อมกับนักเรียนทั้งชั้น (ดูเฉลยคำตอบท้ายเล่ม) แล้วบอกให้นักเรียนทุกคนจดกริยาวลีทั้ง 4 คำลงในสมุดของตนเอง พร้อมทั้งเขียนความหมายภาษาไทยและภาษาอังกฤษกำกับไว้  
F    Circle the word that completes the sentence correctly.
- ก่อนเริ่มทำกิจกรรมข้อ F ครูอธิบายให้นักเรียนทั้งชั้นฟังว่า ตัวเลือก 2 ตัวเลือกเป็นคำศัพท์ที่มักใช้สับสนกัน ให้นักเรียนทุกคนเปิดพจนานุกรมค้นหาความหมายของตัวเลือกในกิจกรรมข้อ F แล้วเลือกวงกลมล้อมรอบคำตอบที่ทำให้ประโยคได้ใจความสมบูรณ์ เมื่อนักเรียนทำกิจกรรมเสร็จแล้ว ครูสุ่มเรียกนักเรียนบางคนบอกคำตอบพร้อมทั้งคำแปลภาษาไทย แล้วจึงเฉลยคำตอบที่ถูกต้องพร้อมกับนักเรียนทั้งชั้น (ดูเฉลยคำตอบท้ายเล่ม) ครูอาจให้นักเรียนฝึกเปิดพจนานุกรมค้นหาความหมายเป็นภาษาอังกฤษเพิ่มเติม   
- ให้นักเรียนจับคู่ช่วยกันแต่งประโยคโดยใช้ตัวเลือกที่ไม่ใช่คำตอบ แล้วออกมาเขียนประโยคที่ตนเองแต่งบนกระดาน ครูและนักเรียนทั้งชั้นช่วยกันตรวจสอบประโยคทั้งหมดและแก้ไขให้ถูกต้องหากพบข้อผิดพลาด
                   Grammar Link
- ครูเขียนตัวอย่างประโยค Simple Past บนกระดานดังนี้ They watched the football game last Sunday. แล้วพูดถาม-ตอบกับนักเรียนทั้งชั้นว่า
T:  What did they do last Sunday?
S:  They watched the football game.
T:  Do they watch the football game today?
S:  No, they watched it last Sunday.
T:  So we use “Simple Past” to describe completed action in the past.
- ครูเขียนตัวอย่างประโยค Past Perfect บนกระดานดังนี้ I hadn’t played golf until I went on vacation to Phuket. แล้วพูดถาม-ตอบกับนักเรียนทั้งชั้นว่า
T:  Did I play golf before I went on vacation to Phuket?
S:  No.
T:  Which action happens before?
S:  I hadn’t played golf.
T:  Which action happens after?
S:  I went on vacation to Phuket.
T:  So we use “Past Perfect” for an action or state that existed before another event, state or time in the past.
- ครูเขียนตัวอย่างประโยค Past Perfect Continuous บนกระดานดังนี้ We had been sitting in the stadium for about an hour when the team came onto the field. แล้วพูดถาม-ตอบกับนักเรียนทั้งชั้นว่า
T:  What did we do before the team came into the field?
S:  We had been sitting in the stadium.
T:  How long had we been sitting?
S:  For about an hour.
T:  This means we sat for about an hour before the team came. So we use “Past Perfect Continuous” for actions that were in progress until a certain time in the past.
- ให้นักเรียนทุกคนศึกษาและสังเกตประโยคตัวอย่าง Simple Past, Past Perfect, Past Perfect Continuous ในกรอบ Grammar Link หน้า 14 แล้วเขียนคำตอบลงในช่องว่างให้ถูกต้อง เมื่อนักเรียนทำกิจกรรมเสร็จแล้ว ครูพูดถาม-ตอบกับนักเรียนทั้งชั้นเพื่อตรวจคำตอบที่ถูกต้อง (ดูเฉลยคำตอบท้ายเล่ม)
- หลังจากนั้นให้นักเรียนทุกคนอ่านโครงสร้างทางไวยากรณ์และตัวอย่างประโยคเพิ่มเติมในหัวข้อ Grammar Reference ข้อ 2.1 และ 2.2 หน้า 109 พร้อมครู ครูอธิบายประเด็นที่นักเรียนยังเข้าใจไม่ชัดเจนเพิ่มเติมและตอบคำถามของนักเรียน แล้วบอกให้นักเรียนแต่ละคนทำกิจกรรมข้อ G ด้วยตนเองต่อไป

         11.3  ขั้นฝึกปฏิบัติ (Practice)
G   Complete the sentences with the correct form of the verbs in parentheses. Use the Simple Past, the Past Perfect or the Past Perfect Continuous.
- ให้นักเรียนแต่ละคนเขียนรูปกริยาลงในช่องว่างในกิจกรรมข้อ G ให้ได้ประโยคสมบูรณ์และถูกต้องตามหลักไวยากรณ์ เมื่อนักเรียนทำกิจกรรมเสร็จแล้ว ครูสุ่มเรียกนักเรียนบางคนอ่านประโยคและคำตอบของตนเอง แล้วจึงเฉลยคำตอบที่ถูกต้องพร้อมกับนักเรียนทั้งชั้น (ดูเฉลยคำตอบท้ายเล่ม)
- ให้นักเรียนจับกลุ่ม กลุ่มละ 3 คน ช่วยกันแต่งประโยค Simple Past, Past Perfect และ Past Perfect Continuous ชนิดละ 2 ประโยค เมื่อนักเรียนทุกกลุ่มทำกิจกรรมเสร็จแล้ว ให้ตัวแทนกลุ่มออกมาเขียนประโยคบนกระดาน ครูและนักเรียนทั้งชั้นช่วยกันตรวจสอบประโยคทั้งหมดและแก้ไขให้ถูกต้อง  
                   Listening Link
H   Listen to a sports announcement at the Olympic Games. For questions 1-4 complete the notes that tell us what instructions the speaker is giving to visiting athletes. Write a word or a short phrase in each box.
- ครูอธิบายให้นักเรียนทั้งชั้นทราบว่า นักเรียนจะได้ฝึกฟังประกาศเกี่ยวกับข้อบังคับในการแข่งขังโอลิมปิกเกมส์ เมื่อนักเรียนฟังซีดีบันทึกเสียงจบ 2 ครั้งแล้ว ให้นักเรียนแต่ละคนเขียนข้อมูลที่หายไปเติมลงในช่องว่างให้ได้ใจความสมบูรณ์ โดยไม่จำเป็นต้องเขียนประโยคทั้งประโยค เพียงแต่เขียนคำหรือวลีสั้นๆ แทน และจะต้องสอดคล้องกับบริบทแวดล้อมที่กำหนดให้ในกิจกรรมข้อ H เมื่อนักเรียนเติมข้อมูลที่หายไปครบทุกข้อแล้ว ให้นักเรียนอ่านประโยคทั้งหมดอีกครั้ง เพื่อตรวจสอบว่าคำหรือวลีสั้นๆ ที่เติมลงในช่องว่างนั้นทำให้ประโยคได้ใจความสมบูรณ์หรือไม่ ครูตรวจสอบคำตอบพร้อมกับนักเรียนทั้งชั้น (ดูเฉลยคำตอบท้ายเล่ม)
T: You will hear a sports announcement at the Olympic Games. You have to complete the notes what instructions the speaker is giving to visiting athletes. Write a word or a short phrase. You should make sure that what you write fits into the sentences given. Read through the answers to make sure they make sense.
                   Speaking Link
I     These are photographs of people doing different hobbies. Compare and contrast the photographs.  Then say what type of person you think would be interested in taking up hobbies like these.
- ก่อนเริ่มทำกิจกรรมข้อ I ให้นักเรียนทั้งชั้นดูภาพงานอดิเรก A - C แล้วครูสุ่มถามนักเรียนบางคนดังนี้
T:    Have you ever tried any of these activities?
S1:   ……………………………                     
T:    Would you like to do any of these hobbies in your free time?                   
S2:   …………………………....
T:    What are your hobbies?
S3:   ……………………………                      
T:    Look at the photographs. Are the activities in photo A and photo B more interesting and exciting than photo C? Why?                         
S4:   ……………………….
T:    What type of person is he in photo A?              
S5:   He is an adventurous person, and he likes to do a dangerous activity.
T:    What type of person are they in photo B?
S6:   They are adventurous people, and they like to do an exciting activity.                   
T:    What type of person are they in photo C?                     
S7:   They are peaceful people. They like to think silently while they are playing chess. They are different from the people in photo A and photo B. They like exciting activities. 
  จากนั้นให้นักเรียนจับคู่ผลัดกันพูดเปรียบเทียบสิ่งที่เหมือนกันและแตกต่างกันของภาพในกิจกรรมข้อ I ทั้ง 3ภาพ พร้อมทั้งพูดแสดงความคิดเห็นว่า บุคคลในภาพแต่ละภาพมีลักษณะบุคลิกเช่นใดถึงได้สนใจในงานอดิเรกนั้นๆ เมื่อนักเรียนทำกิจกรรมคู่เสร็จแล้ว ครูสุ่มเรียกนักเรียนบางคู่ออกมาพูดสนทนาหน้าชั้นเรียน ครูเตือนนักเรียนทั้งชั้นว่า นักเรียนจะต้องใช้วลีที่ได้เรียนมาแล้วในกิจกรรมการพูดบทที่ 14 Bridge 4 ประกอบการพูดในครั้งนี้ และจะต้องตอบคำถามในกรอบวงรีโดยไม่ใช่ประโยครูปย่อ


                   Writing Link
J    You have seen the following advertisement in the local newspaper and have made some notes. Write a letter asking for further information about the points you have made.
- ครูเขียนประโยคคำถาม direct questions และ indirect questions ต่อไปนี้บนกระดาน
Direct Questions
1. How many students are there in this class?                                                                
2.  Had anybody reported about the missing person?       
3. Is there a lift in the apartment block?                 
Indirect Questions
1. I would like to know how many students there are in this class.
2. Could you let me know if anybody had reported about the missing person?        
3. I wonder if you could tell me there is a lift in the apartment block.           
แล้วซักถามนักเรียนทั้งชั้นดังนี้            
T:  In direct questions, are the verbs before or after the subjects?
S:  The verbs are before the subjects.                      
T:  In indirect questions, are the verbs before or after the subjects?                  
S:  The verbs are after the subjects.
T:  When we want to ask somebody with indirect questions, we have to change the direct questions into statements. There are many ways to ask somebody with indirect questions as below phrases:
- Could you let me know………………………?
- Could you tell me…………………………….?
- I wonder if you could let me know …………..
- I wonder if you could tell me …………………
- ครูช่วยนักเรียนแต่งประโยคคำถาม direct questions และ indirect questions ตามหัวข้อคำถามที่กำหนดให้ในกิจกรรมข้อ J และตรวจสอบดูว่านักเรียนเข้าใจความหมายของคำถามแต่ละคำถามหรือไม่ แล้วบอกให้นักเรียนแต่ละคนเขียนจดหมายเพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติม ครูรวบรวมผลงานเขียนทั้งหมด ตรวจสอบข้อผิดพลาด และให้คำแนะนำแก่นักเรียน เพื่อให้นักเรียนนำคำแนะนำเหล่านั้นไปแก้ไขผลงานเขียนของตนเองต่อไป
- ครูอาจให้นักเรียนไปค้นหาโฆษณาที่คล้ายกับโฆษณาในกิจกรรมข้อ J มาคนละ 1โฆษณา อาจเป็นโฆษณาสมัครงานหรือโฆษณาขายสินค้าต่างๆ แล้วให้นักเรียนแต่ละคนเขียนจดหมายเพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติมครูรวบรวมผลงานเขียนทั้งหมด ตรวจสอบ แล้วส่งผลงานเขียนคืนให้กับนักเรียน เพื่อให้นักเรียนศึกษาข้อผิดพลาดของตนเอง ครูอาจอธิบายเพิ่มเติมหากนักเรียนไม่เข้าใจ
K   Use the phrases to change these direct questions into indirect questions. There is more than one possible answer.
- ให้นักเรียนแต่ละคนเปลี่ยนประโยคคำถาม direct questions ในกิจกรรมข้อ K ให้เป็นประโยคคำถาม indirect questions ที่ถูกต้อง ครูเดินสังเกตรอบๆ ห้องขณะที่นักเรียนกำลังทำกิจกรรม และบอกให้นักเรียนทราบว่าคำตอบที่ถูกต้องในแต่ละข้ออาจมีมากกว่า 1 คำตอบ เมื่อนักเรียนทำกิจกรรมเสร็จแล้ว ครูสุ่มเรียกนักเรียนบางคนอ่านประโยคคำตอบ แล้วจึงเฉลยคำตอบที่ถูกต้องพร้อมกับนักเรียนทั้งชั้น (ดูเฉลยคำตอบท้ายเล่ม)
- ให้นักเรียนแต่งประโยคคำถาม direct question คนละ 1 ประโยค แล้วเปลี่ยนประโยคคำถาม direct question ที่ตนเองแต่งให้เป็นประโยคคำถาม indirect question ที่ถูกต้อง เมื่อนักเรียนทำกิจกรรมเสร็จแล้ว ครูเรียกนักเรียนออกมาเขียนประโยคบนกระดาน ครูและนักเรียนทั้งชั้นช่วยกันตรวจสอบและแก้ไขให้ถูกต้องหากพบข้อผิดพลาด

         11.4  ขั้นนำไปประยุกต์ใช้ (Production)
L    Now write your letter. Use the indirect sentences from task K and the letter outline below. Try to organize your points into logical paragraphs. (100-120 words)
- ก่อนเริ่มทำกิจกรรมข้อ L ให้นักเรียนทุกคนย้อนกลับไปอ่านโฆษณาในกิจกรรมข้อ J อีกครั้ง เพื่อทำความเข้าใจหัวข้อคำถาม 5 หัวข้อที่กำหนดให้ ซึ่งเชื่อมโยงกับข้อมูลที่นักเรียนจะต้องเขียนไปขอทราบเพิ่มเติมในกิจกรรมข้อ L ครูต้องแน่ใจว่านักเรียนได้อ่านและทำความเข้าใจโครงร่างการเขียนจดหมาย (Letter Outline) เรียบร้อยแล้ว แล้วแนะนำให้นักเรียนวางแผนรายละเอียดงานเขียนของตนเองตามโครงร่างจดหมาย (ครูสามารถดูหัวข้อการเขียนเพิ่มเติมได้จากหัวข้อ Composition Titles ท้ายเล่ม)
ตัวอย่างผลงาน
Dear Sir/Madam,

I saw your advertisement about Korean Course in Bangkok Post yesterday. So I would like to know more information about your Korean Language course.

I wonder if you could tell me how long the course is. Do we have to study everyday or just weekends? When do we have to study and how much do we have to pay for the course?

I wonder if you could let me know about the instructor. Is he/she a native Korean? Is he/she a qualified instructor? I wish he/she was a native Korean, not Thai. And could you tell me how I will go to your school? What must I prepare for studying? 

I would be grateful if you give me the further information I have requested. I am looking forward to your reply

Sincerely,
Wanna
         11.5  ขั้นสรุป (Wrap up)
                   - ครูอาจเลือกใช้ขั้นสรุปวิธีใดวิธีหนึ่งหรือทั้ง 2 วิธีดังนี้
                 วิธีที่ 1  ครูนำเสนอคำถามสำคัญบนกระดาน นำนักเรียนอ่านและทำความเข้าใจคำถาม
                      1)  นักเรียนช่วยกันตอบคำถามจากความเข้าใจและความทรงจำ
                 2)  นักเรียนเปิดหนังสือเรียนเพื่อศึกษาเพิ่มเติมและตรวจสอบความแม่นยำอีกครั้ง
                 3) ครูช่วยเสริม เพิ่มเติม และสรุป
                 4) นักเรียนบันทึกลงสมุดเป็นการบ้านเพื่อไว้อ้างอิงและทบทวนความรู้
                 วิธีที่ 2  ครูให้นักเรียนเขียนสรุปสิ่งที่ได้เรียนรู้จากสิ่งที่ต้องรู้และปฏิบัติได้ลงสมุด พร้อมทั้งเขียน
                 คำศัพท์ใหม่ลงในสมุดจดคำศัพท์ของตนเอง ครูอาจทบทวนคำศัพท์และโครงสร้างทางไวยากรณ์
                 ที่นักเรียนเข้าใจยังไม่ชัดเจนก่อนเรียนบทต่อไป

  12. กิจกรรมเสนอแนะ  และข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับครู

         ให้นักเรียนทำกิจกรรมในหนังสือแบบฝึกหัด BRIDGE Workbook 5 Unit 2
       -  ให้นักเรียนแต่ละคนแต่งเรียงความหัวข้อ “My Favorite Sports” หรือ “My Hobby/Hobbies” โดยใช้ โครงสร้างประโยค Simple Past, Past Perfect และ Past Perfect Continuous ความยาวประมาณ 120 คำ
       -  ให้นักเรียนฝึกการเขียนเพิ่มเติมโดยเลือกหัวข้อจาก Composition Exercises ดังนี้
(1) ครูเตรียมถ่ายสำเนาโฆษณาหลักสูตรสอนเล่นกีฬายามว่างจากนิตยสารกีฬาและโฆษณาอุปกรณ์ดำน้ำแบบใหม่แจกให้กับนักเรียนทั้งชั้นใช้ประกอบการทำกิจกรรมการเขียน ให้นักเรียนเขียนจดหมายขอข้อมูลเพิ่มเติมตามหัวข้อคำถามที่กำหนดให้ในแต่ละโฆษณา (100-120 คำ)



       -  ครูอาจให้นักเรียนทำโครงงานดังนี้
          Project Work:  The Rules of the Game
- ให้นักเรียนจับคู่หรือจับกลุ่มช่วยกันรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับกีฬาหรืองานอดิเรกทั้งหมดที่นักเรียนสนใจเพื่อจัดทำโปสเตอร์แสดงให้เพื่อนๆ ในชั้นเรียนหรือนักเรียนคนอื่นๆ ภายในโรงเรียนได้อ่าน นักเรียนจะต้อง อธิบายได้ว่า กีฬาหรืองานอดิเรกเหล่านั้นเป็นกีฬาหรืองานอดิเรกแบบใด และต้องใช้อุปกรณ์การเล่นใดประกอบบ้าง รวมทั้งพยายามค้นหาข้อมูลเฉพาะของกีฬาหรืองานอดิเรกเหล่านั้น ครูอาจเลือกโปสเตอร์ที่จัดทำได้ดีที่สุดแสดงบนป้ายนิเทศหน้าห้องเรียน
- นักเรียนจะต้องนำเสนอข้อมูลที่จะเขียนลงในโปสเตอร์ให้ครูตรวจสอบก่อนที่จะจัดวางภาพต่างๆ ลงไปในโปสเตอร์ ครูจะเป็นผู้กำหนดว่า นักเรียนคู่ใดหรือกลุ่มใดที่จะได้นำเสนอโปสเตอร์ของตนเองให้เพื่อนๆ ในชั้นเรียนดูก่อน-หลังตามลำดับ ขณะที่นักเรียนนำเสนอโปสเตอร์หน้าชั้นเรียน นักเรียนจะต้องพูดอธิบายเหตุผลในการเลือกกีฬาหรืองานอดิเรกเหล่านั้น พร้อมทั้งบอกด้วยว่านักเรียนได้เล่นกีฬาหรือทำงานอดิเรกเหล่านั้นนานเพียงใดแล้ว
          Project Link
- นักเรียนอาจไม่ถนัดการเขียนย่อความเป็นภาษาอังกฤษ ดังนั้นนักเรียนจึงจำเป็นต้องเขียนข้อมูลทุกอย่างลงบนโปสเตอร์ของตนเอง และเมื่อนักเรียนเขียนข้อมูลต่างๆ เรียบร้อยแล้ว นักเรียนอาจแลกเปลี่ยนผลงานเขียนกับเพื่อนคู่อื่นหรือกลุ่มอื่น เพื่อจดบันทึกคำแนะนำของเพื่อนและแก้ไขผลงานเขียนของตนเองต่อไป
- นักเรียนจะต้องเรียนรู้ที่จะแยกแยะว่า ข้อมูลใดเป็นข้อมูลหลักหรือสำคัญ และข้อมูลใดเป็นรายละเอียด โครงงานในบทนี้ถือเป็นตัวอย่างที่ดีในการฝึกให้นักเรียนรวบรวมข้อมูลและจัดวางข้อมูลที่มีลงในสื่อที่ไม่ใช่ความเรียงได้ถูกต้องและเหมาะสม ครูต้องมั่นใจว่า โครงงานนี้จะต้องไม่ซ้ำกับกิจกรรมการเขียนที่นักเรียนได้ฝึกทำไปแล้ว
- ให้นักเรียนนำเสนอโปสเตอร์ออกมาในรูปแบบที่แตกต่างกันออกไป นอกเหนือจากภาพประกอบแล้ว นักเรียนยังสามารถใช้ตาราง แผนผัง แผนภาพ หรือภาพวาดการ์ตูนที่นักเรียนได้วาดเองแทนได้ หลังจากที่นักเรียนนำเสนอโปสเตอร์ของตนเองครบทุกคู่หรือทุกกลุ่มแล้ว นักเรียนอาจติดโปสเตอร์ของตนองไว้ที่ผนังของห้องเรียนหรือป้ายนิเทศภายในโรงเรียน เพื่อให้เพื่อนๆ หรือนักเรียนคนอื่นๆ ได้อ่านเพิ่มความรู้ต่อไป

  13. ความคิดเห็นของผู้บริหารสถานศึกษาหรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย

……………………………………………………………………………………………………………….……..…
…………………………………………………………………………………………………………………….…..
………………………………………………………………………………………………………………………...
………………………………………………………………………………………………………………………...
        
                                                                             ลงชื่อ.………………………………………………
                                                                                  (                                                     )
                                                                        ตำแหน่ง………………………………………………..


  14. บันทึกผลการจัดการเรียนรู้/ปัญหาอุปสรรค/ข้อเสนอแนะ/แนวทางการปรับปรุง

……………………………………………………………………………………………………………….……..…
…………………………………………………………………………………………………………………….…..
………………………………………………………………………………………………………………………...
………………………………………………………………………………………………………………………...

                                                                             ลงชื่อ.………………………………………………
                                                                                  (                                                     )
                                                                        ตำแหน่ง………………………………………………..


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น